1. ความหมายของสินค้า
สินค้า (Goods) หมายถึงสินทรัพย์ที่กิจการจัดหาไว้ เพื่อวัตถุประสงมีไว้จำหน่าย เช่นกิจการจำหน่ายรถยนต์ วัตถุประสงค์มีรถไว้เพื่อการจำหน่าย รถยนต์จึงเป็นสินค้าของกิจการจำหน่ายรถยนต์ ในขณะเดียวกันการจำหน่ายรถยนต์ มีเครื่องงคอมพิวเตอร์ไว้ใช้ในสำนักงานไม่ได้มีวัตถุประสงค์ไว้ขาย ดังน้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงเแ็นสินทรัพย์ของกิจการจำหน่ายรถยนต์ แต่ไม่ใช่สินค้า หรือกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ววัตุประสงค์มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปไว้จำหน่าย เสื้อผ้าสำเร็จรูปจึงเป็นสินค้าของกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าสำเน็จรูป ถ้ากิจการจำหน่าย เสื้อผ้าสำเร็จรูปมีรถยนต์เพื่อไว้ใช้งาน รถยนต์ก็ถือเป็นสินทรัพย์ของกิจการแต่ไม่ใช่สินค้า
กิจการเกี่ยวกับสินค้าแบ่งเป็น 2 ประเภท
- กิจการพาณิขยกรรม คือ กิจการที่ทำหน้าที่ซื้อสินค้าที่สำเร็จรูปแล้วเพื่อไว้ขาย โดยไม่มีการแปรสภาพ
- กิจการอุตสาหกกรม คือ กิจการที่ทำหน้าที่ในการผลิตสินค้าที่สำเร็จรูป โดยซื้อวัตถุดิบนำมาแปรสภาพ
กิจการเกี่ยวกับสินค้าแบ่งเป็น 2 ประเภท
- กิจการพาณิขยกรรม คือ กิจการที่ทำหน้าที่ซื้อสินค้าที่สำเร็จรูปแล้วเพื่อไว้ขาย โดยไม่มีการแปรสภาพ
- กิจการอุตสาหกกรม คือ กิจการที่ทำหน้าที่ในการผลิตสินค้าที่สำเร็จรูป โดยซื้อวัตถุดิบนำมาแปรสภาพ
2. ส่วนลดการค้า
ผู้ขายจะตั้งราคาสินค้าที่ขายไว้ในราคาสินค้า หรือในสมุดราคาสินค้าไว้เพียงราคาเดียว แต่เวลาขายจริงจะคิดราคาไม่เท่ากัน ส่วนที่ทำให้ราคาขายของสินค้าไม่เท่ากันของผู้ซื้อแต่ละราย คือ ส่วนลดการค้า
ส่วนลดการค้า หมายถึง จำนวนเงินหรืออัตราร้อยละที่ผู้ขายยอมลดให้ผู้ซื้อจากราคาที่ตั้งไว้
ส่วนลดการค้าเป็นรายการที่ไม่ต้องบันทึกบัญชีทั้งในสมุดบัญชีของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งผู้ซื้อจะบันทึกสินค้าที่ซื้อในราคาที่จ่ายเงินจริง
ตัวอย่างที่ 1 ราคาสินค้าตั้งราคาไว้ 20,000 บาท ผู้ขายให้ส่วนลด 10%
ราคาสินค้า 20,000 บาท
หัก ส่วนลดการค้า (20,000 x 10/100) 2,000 บาท
ราคาที่ขายจริง 18,000 บาท
ทางด้านผู้ซื้อจะบันทึกบัญชี ดังนี้
เดบิต ซื้อ 18,000
เครดิต เงินสด 18,000
ทางด้านผู้ขายจะบันทึกบัญชี ดังนี้
เดบิต เงินสด 18,000
เครดิต ขาย 18,000
ตัวอย่างที่ 2 ราคาสินค้าตั้งราคาไว้ 20,000 บาท ผู้ขายให้ส่วนลด 5% และอีก 2%
ราคาสินค้า 20,000 บาท
หัก ส่วนลด 20,000 x 5/100 1,000 บาท
คงเหลือ 19,000 บาท
หัก ส่วนลด 19,000 x 2/100 380 บาท
ราคาที่ขายจริง 18,620 บาท
3. ค่าขนส่ง
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขนถ่ายสินค้าที่ซื้อขายกัน ในกรณีซื้อขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องตกลงกันในเงื่อนไขการซื้อขายเกี่ยวกับการส่งมอบและกรรมสิทธิ์ให้สินค้า ซึ่งในการกำหนดเงื่อนไขต่างกัน ก็จะทำให้ราคาสินค้าที่ตกลงซื้อขายกันมีราคาแตกต่างกันด้วยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการส่งมอบ
เงื่อนไขในการขาย มีดังนี้
1. FOB Shipping Point หมายถึง กรณีที่ผู้ขายจะรับผิดชอบในการส่งสินค้าไปถึงท่าเรือของผู้ขาย และผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าและกรรมสิทธิ์ในสินค้าตั้งแต่ท่าเรือของผู้ขายจนถึงสถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนดให้ไปส่ง
2. FOB Destination หมายถึง กรณีที่ผู้ขายจะรับผิดชอบค่าขนส่งและกรรมสิทธิ์ในสินค้าจะไม่โอนไปยังผู้ซื้อจนกว่าจะถึงสถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนดให้ไปส่ง
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าขนส่ง
1. กรณีที่ซื้อขายกันโดยเงื่อนไข FOB Shipping Point
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ค่าขนส่งเข้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
ส่วนผู้ขายไม่ต้องบันทึกบัญชี
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ขายจ่ายค่าขนส่งแทนผู้ซื้อไปก่อน
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ค่าขนส่งเข้า xxx
เครดิต เจ้าหนี้การค้า xxx
ผู้ขายจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ลูกหนี้การค้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
2. กรณีที่ซื้อขายกันโดยเงื่อนไข FOB Destination
ผู้ซื้อไม่ต้องบันทึกบัญชี
ผู้ขายบันทึกบัญชีโดย
เดบิต ค่าขนส่งออก xxx
เครดิต เงินสด xxx
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ซื้อจ่ายค่าขนส่งแทนผู้ขายไปก่อน
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต เจ้าหนี้การค้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
ผู้ขายบันทึกบัญชีโดย
เดบิต ค่าขนส่งออก xxx
เครดิต ลูกหนี้การค้า xxx
เงื่อนไขในการขาย มีดังนี้
1. FOB Shipping Point หมายถึง กรณีที่ผู้ขายจะรับผิดชอบในการส่งสินค้าไปถึงท่าเรือของผู้ขาย และผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าและกรรมสิทธิ์ในสินค้าตั้งแต่ท่าเรือของผู้ขายจนถึงสถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนดให้ไปส่ง
2. FOB Destination หมายถึง กรณีที่ผู้ขายจะรับผิดชอบค่าขนส่งและกรรมสิทธิ์ในสินค้าจะไม่โอนไปยังผู้ซื้อจนกว่าจะถึงสถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนดให้ไปส่ง
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าขนส่ง
1. กรณีที่ซื้อขายกันโดยเงื่อนไข FOB Shipping Point
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ค่าขนส่งเข้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
ส่วนผู้ขายไม่ต้องบันทึกบัญชี
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ขายจ่ายค่าขนส่งแทนผู้ซื้อไปก่อน
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ค่าขนส่งเข้า xxx
เครดิต เจ้าหนี้การค้า xxx
ผู้ขายจะบันทึกรายการโดย
เดบิต ลูกหนี้การค้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
2. กรณีที่ซื้อขายกันโดยเงื่อนไข FOB Destination
ผู้ซื้อไม่ต้องบันทึกบัญชี
ผู้ขายบันทึกบัญชีโดย
เดบิต ค่าขนส่งออก xxx
เครดิต เงินสด xxx
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ซื้อจ่ายค่าขนส่งแทนผู้ขายไปก่อน
ผู้ซื้อจะบันทึกรายการโดย
เดบิต เจ้าหนี้การค้า xxx
เครดิต เงินสด xxx
ผู้ขายบันทึกบัญชีโดย
เดบิต ค่าขนส่งออก xxx
เครดิต ลูกหนี้การค้า xxx
4. การรับคืนสินค้า
เมื่อผู้ขายส่งสินค้าไปให้ผู้ซื้อแล้วในการตรวจรับสินค้าทางผู้ซื้ออาจพบสินค้าที่ส่งไปชำรุดเสียหายอาจผิดขนาด หรือคุณภาพไม่ตรงกับที่ส่งให้ ในบางครั้งผู้ขายก็ต้องเปลี่ยนสินค้า หรืออาจจะไม่ต้องเปลี่ยนแต่ให้ส่วนลดแก่ผู้ซื้อ แต่ถ้าลูกค้าซื้อเป็นเงินสดต้องคืนเงินให้ลูกค้า
การรับคืนสินค้าจะมีผลทำให้ยอดขายและยอดลูกหนี้ลดลง การบันทึกบัญชีจะใช้ใบลดหนี้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี โดยบันทึกในบัญชี
การรับคืนสินค้าจะมีผลทำให้ยอดขายและยอดลูกหนี้ลดลง การบันทึกบัญชีจะใช้ใบลดหนี้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี โดยบันทึกในบัญชี
การบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง
จะบันทึกการรับจ่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นความเคลื่อนไหวของสินค้าอยู่ตลอดเวลา วิธีนี้กิจการจะได้ข้อมูลที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์เพื่อใช้ในการวางแผนและควบคุมเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ เหมาะกับธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าที่มีราคาต่อหน่วยสูง และมีปริมาณน้อย
บัญชีที่สำคัญเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่องได้แก่บัญชีสินค้าคงเหลือ และบัญชีต้นทุนสินค้าขาย
บัญชีสินค้าคงเหลือ เป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน ตามวิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง ในบัญชีสินค้าคงเหลือจะประกอบด้วย รายละเอียดดังนี้
ด้านเดบิต ประกอบด้วย
1. รายการซื้อสินค้า
2. รายการรับคืนสินค้าจากลูกค้า
3. รายการค่าขนส่งเข้า
ส่วนทางด้านเครดิต ประกอบด้วย
1. รายการต้นทุนสินค้าที่ขายไป
2. รายการส่งคืนสินค้า
3. รายการส่วนลดรับที่ได้รับจากผู้ขาย
บัญชีที่สำคัญเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่องได้แก่บัญชีสินค้าคงเหลือ และบัญชีต้นทุนสินค้าขาย
บัญชีสินค้าคงเหลือ เป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน ตามวิธีการบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง ในบัญชีสินค้าคงเหลือจะประกอบด้วย รายละเอียดดังนี้
ด้านเดบิต ประกอบด้วย
1. รายการซื้อสินค้า
2. รายการรับคืนสินค้าจากลูกค้า
3. รายการค่าขนส่งเข้า
ส่วนทางด้านเครดิต ประกอบด้วย
1. รายการต้นทุนสินค้าที่ขายไป
2. รายการส่งคืนสินค้า
3. รายการส่วนลดรับที่ได้รับจากผู้ขาย
การบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด
เป็นวิธีการบันทึกบัญชีที่ไม่บันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือและบัญชีต้นทุนสินค้าขายในขณะที่มีการซื้อขายสินค้าจนกว่าจะถึงวันสิ้นงวดบัญชี ตามวิธีนี้บัญชีสินค้าคงเหลือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างงวด และบัญชีต้นทุนสินค้าขายก็จะไม่มีการบันทึกตอนที่ขายสินค้าทุกครั้ง และในวันสิ้นงวดกิจการจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจนับสินค้าในวันสิ้นงวดเพื่อบันทึกในบัญชีสินค้าคงเหลือ และใช้ในการคำนวณต้นทุนสินค้าที่ขายไป
บัญชีที่ต้องบันทึกแทนบัญชีสินค้าคงเหลือและบัญชีต้นทุนสินค้าขาย คือ บัญชีซื้อ บัญชีค่าขนส่งเข้า บัญชีส่งคืนและส่วนลดบัญชีส่วนลดรับ
ธุรกิจที่เหมาะกับการบันทึกบัญชีวิธีนี้คือ ธุรกิจที่จำนวนสินค้าราคาต่อหน่วยค่อนข้างต่ำและขายเป็นจำนวนมาก
บัญชีสินค้าคงเหลือตามวิธีบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด จะแสดงเฉพาะสินค้าคงเหลือยกมาจากงวดก่อนเท่านั้น ในระหว่างงวดจะไม่มีการบันทึกบัญชี
บัญชีที่ต้องบันทึกแทนบัญชีสินค้าคงเหลือและบัญชีต้นทุนสินค้าขาย คือ บัญชีซื้อ บัญชีค่าขนส่งเข้า บัญชีส่งคืนและส่วนลดบัญชีส่วนลดรับ
ธุรกิจที่เหมาะกับการบันทึกบัญชีวิธีนี้คือ ธุรกิจที่จำนวนสินค้าราคาต่อหน่วยค่อนข้างต่ำและขายเป็นจำนวนมาก
บัญชีสินค้าคงเหลือตามวิธีบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด จะแสดงเฉพาะสินค้าคงเหลือยกมาจากงวดก่อนเท่านั้น ในระหว่างงวดจะไม่มีการบันทึกบัญชี